ใครที่ชื่นชอบเมนูประเภทหลน ขอว่าอย่าเลื่อนผ่าน เพราะครั้งนี้เรานำเมนู “หลนเต้าเจี้ยว” สูตรโบราณทำกินกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ที่ไม่นิยมใส่เนื้อสัตว์ แต่จะเน้นเพิ่มความเข้มข้นด้วยไข่ไก่ ส่วนการปรุงรสก็เพียงสองรสเท่านั้น คือ หวานและเค็ม ต่างจากสมัยนี้ที่เพิ่มเติมน้ำมะขามเปียกลงไปด้วย ซึ่งก็ให้ความอร่อยไปอีกแบบค่ะ แต่ครั้งนี้เรามาลงมือปรุงหลนเต้าเจี้ยวแบบฉบับคนโบราณกันก่อน
วัตถุดิบ “หลนเต้าเจี้ยว” สำหรับ 4-5 ท่าน
- เต้าเจี้ยวขาว (ใช้เฉพาะส่วนเนื้อ) 1 ถ้วย
- หัวกะทิสด 3 ถ้วย
- หางกะทิ 2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- หัวหอมแดง 5-7 หัว
- ต้นหอมผักชีหั่นท่อน อย่างละ 2-3 ต้น
- น้ำตาลปี๊ป 2-3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ
- พริกหนุ่ม พริกชี้ฟ้า หรือพริกจินดา (ตามชอบ)
- ผักเคียงตามชอบ
วิธีทำ “หลนเต้าเจี้ยว”
1. นำกะทิทั้งส่วนหัวและหาง เทใส่ภาชนะนำขึ้นตั้งไฟคนไม่ให้กะทิแตกมัน
2. นำเต้าเจี้ยวขาวล้างน้ำให้สะอาด (3-4 ครั้ง) แล้วกรองด้วยกระชอนตาถี่ พักให้สะเด็ดน้ำ
3. นำเต้าเจี้ยวลงโขลกให้แหลก แล้วจึงใส่หัวหอมแดงลงไปโขลกหยาบๆ
4. เมื่อกะทิเดือดและน้ำงวดลงเล็กน้อย ให้ใส่เต้าเจี้ยวและหัวหอมแดงที่โขลกแล้วลงไป
5. ใช้ทัพพียีให้เต้าเจี้ยวคลายตัวออก แล้วรอให้เดือดอีกครั้ง
6. ตอกไข่ใส่ลงไป ตีให้ไข่แดงพอแตกออก
7. เดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย (ค่อยๆ เติมน้ำตาลอาจมากหรือน้อยตามความหวานที่เราชอบ) จากนั้นชิมรสดูก่อน หากไม่เค็มให้เติมเกลือทีละน้อย (หลนเต้าเจี้ยวจะออกรสหวานนำเค็มตาม)
8. ใส่พริกลงไปแล้วรอเดือดอีกครั้ง จึงโรยหน้าด้วยต้นหอมผักชีหั่นท่อน
9. ตักเสิร์ฟพร้อมผักเคียงที่ชอบ
วิธีเลือกซื้อเต้าเจี้ยวขาว
แนะนำให้ดูลักษณะของเม็ดถั่วเหลือง ต้องไม่เละ สีออกขาวอมเหลืองอ่อนๆ (ถ้าสีเข้มออกเหลืองแกมน้ำตาลอาจหมักมานานและให้รสเค็มเกินไป) เมื่อจะนำมาปรุงอาหารต้องล้างน้ำให้สะอาด และก่อนปรุงรสเค็ม ควรชิมก่อนปรุง เพราะหากเต้าเจี้ยวถูกหมักมาแบบหนักเกลือ จะมีรสเค็มมากในอาหาร
