อาการท้องอืดเกิดจากการมีแก๊สในช่องท้องมากเกินไป ซึ่งแก๊สเหล่านี้อาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง การดื่มเครื่องดื่มที่มีก๊าซ การกลืนอากาศเข้าไปขณะรับประทานอาหารหรือดื่ม การรับประทานอาหารเร็วเกินไป หรือการมีโรคหรือภาวะอื่นๆ ที่ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร เช่น โรคลำไส้แปรปรวน โรคกระเพาะอาหารอักเสบ เป็นต้น
อาหารบางประเภทที่อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ได้แก่
- ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วเขียว
- กะหล่ำปลี บร็อคโคลี หัวหอม หอมใหญ่
- ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้ม เลมอน
- เครื่องดื่มที่มีก๊าซ เช่น น้ำอัดลม เบียร์ โซดา
- นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต ชีส
- อาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทอด
- อาหารรสจัด เช่น อาหารที่มีเครื่องเทศหรือซอสปรุงรสเข้มข้น
นอกจากนี้ พฤติกรรมบางอย่างก็อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดได้เช่นกัน เช่น การรับประทานอาหารเร็วเกินไป การกลืนอากาศเข้าไปขณะรับประทานอาหารหรือดื่ม การดื่มน้ำอัดลมขณะรับประทานอาหาร การนอนราบหลังรับประทานอาหารทันที
หากมีอาการท้องอืดเรื้อรังหรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้องรุนแรง ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด หรือน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
ดังนั้น หากมีอาการท้องอืด ควรสังเกตว่ารับประทานอะไรเข้าไปบ้างในช่วงที่ผ่านมา หากพบว่ารับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ควรหลีกเลี่ยงหรือรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการท้องอืดซ้ำในอนาคต
วิธีแก้อาหารท้องอืด และพุงป๋อง
- เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
- แบ่งอาหารเป็นมือย่อย
- กินอาหารที่ช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหาร
- ห้ามดื่มน้ำพร้อมอาหาร
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่ง