7 สูตรธรรมชาติตัวช่วยขจัดรังแค บำรุงหนังศรีษะในขั้นตอนเดียว

June 8, 2022 0 Comments

สาเหตุหลักเรื่องรังแคต่างๆ ที่ทำให้สาวๆ ต้องเผชิญกับปัญหารังแคบนหนังศีรษะนั้นมีอยู่มากมาย ทั้งการใช้แชมพูที่มีสารเคมีรุนแรง มีสารพาราเบน แอลกอฮอล์ การใช้น้ำยาดัดผม น้ำยาย้อมผม และผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมอีกมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้หนังศีรษะเร่งผลิตเซลล์ผิวที่เร็วกว่าปกติ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราอีกด้วย วันนี้เราจึงนำสูตรธรรมชาติที่ช่วยขจัดรังแคพร้อมทั้งบำรุงหนังศีรษะมาแชร์ให้สาวๆ ได้นำไปใช้กันค่ะ เชื่อว่าวิธีเหล่านี้เอาอยู่ วิธีขจัดรังแค สูตรเกลือการขจัดรังแคพร้อมทั้งบำรุงหนังศีรษะด้วยสูตรเกลือ จัดเป็นสูตรที่ช่วยฆ่าเชื้อโรค สามารถขจัดเชื้อราและแบคทีเรียบนหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี เพียงแค่สาวๆ ใช้เกลือเม็ดเล็กประมาณหยิบมือหนึ่ง นำมาถูวนๆ ให้ทั่วหนังศีรษะประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ตามด้วยใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน แค่นี้ก็ช่วยรักษารังแคได้แล้ว สูตรว่านหางจระเข้ในส่วนของสูตรว่านหางจระเข้ ให้เอาแต่วุ้นจากว่านหางจระเข้ประมาณ 1 ถ้วย นำมาบดให้ละเอียด ก่อนนำไปหมักให้ทั่วหนังศีรษะ จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ทำทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ก็ช่วยขจัดรังแค พร้อมทั้งบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและไม่หลุดร่วงได้ง่ายอีกต่อไปได้แล้ว สูตรมะนาวสำหรับสูตรมะนาวนั้นให้สาวๆ เตรียมน้ำมะนาวประมาณ 8 ช้อนโต๊ะ มาผสมเข้ากับน้ำต้มสุกประมาณ 1/2 ถ้วย จากนั้นเอามาหมักผมทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ต่อด้วยการนวดศีรษะแต่เพียงเบาๆ แล้วอาบน้ำสระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน …

วิตามินบำรุงผิวพรรณ วิตามินบำรุงผิวหน้าใส ต้องมีติดบ้าน

May 10, 2022 0 Comments

1.วิตามินเอ ประโยชน์วิตามินเอ หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ เรตินอล เป็นส่วนผสมที่ช่วยลดสิวและลดเลือนริ้วรอยได้เป็นอย่างดี โดยในสกินแคร์ลดสิวมักจะมีส่วนผสมตัวนี้ นอกจากนี้วิตามินเอยังช่วยป้องกันการสูญเสียคอลลาเจน พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ช่วยลดรอยดำ และป้องกันผิวเสียจากการโดนแสงแดดทำร้ายได้ด้วย 2.วิตามินบี 3ประโยชน์วิตามินบี 3 หรือเรียกอีกชื่อคือ Niacinamide เป็นส่วนผสมที่มีอยู่ในสกินแคร์ตัวดังหลายตัว เป็นสารที่ช่วยบำรุงผิว ปลอบประโลมผิว ช่วยลดความแห้งกร้านของผิว บรรเทาอาการแดงและอาการระคายเคืองได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง พร้อมทั้งช่วยปรับสีผิว ลดจุดด่างดำ ลดริ้วรอย และกระชับรูขุมขนให้เล็กลง 3.วิตามินบี 5ประโยชน์วิตามินบี 5 หรือเรียกอีกชื่อคือ Pantothenic acid เป็นวิตามินที่ช่วยปลอบประโลมผิว บำรุงผิวให้มีความเรียบเนียน แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ต้านการอักเสบของผิว ลดการระคายเคือง และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี 4.วิตามินซีประโยชน์วิตามินซี หรือที่เรียกกันอีกชื่อคือ L-ascorbic acid จัดเป็นส่วนผสมตัวเด็ดที่อยู่ในสกินแคร์ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดการผลิตเม็ดสี และปกป้องผิวที่ถูกรังสียูวีทำร้ายจนเกิดความหมองคล้ำและสัญญาณแห่งวัยต่างๆ 5.วิตามินดีประโยชน์วิตามินดี เป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวได้ดี ซึ่งโดยปกติแล้วสาวๆ สามารถรับวิตามินชนิดนี้ได้จากการสัมผัสแสงแดดก่อน 10 โมงเช้า และหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วง 10 โมง ถึง …

5 วิธีดูแลผิวสวยแบบฉบับสาวญี่ปุ่น

January 8, 2020 0 Comments

สาวญี่ปุ่นมีผิวที่เนียนละเอียดมาก เค้ามีวิธีดูแลผิวหน้ากันอย่างไร ทางเราได้รวมเทคนิคเคล็ดลับไว้หมดแล้ว เพื่อให้สาวๆ ได้นำไปลองใช้ บำรุงผิวให้ขาวใส เนียนแบบฉบับสาวญี่ปุ่น มีเพียง 5 ขั้นตอนง่าย ทำก่อนนอน Step 1 : ล้าง Make up ก่อนนอนเนื่องจากผู้หญิงเรามักจะต้องแต่งหน้าในทุก ๆ เช้า ดังนั้นการล้างหน้าอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ ควรใช้คลีนเซอร์ในการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง หรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนผิวหน้าด้วย ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ แต่สำหรับสาวญี่ปุ่นแล้ว เธอเลือกใช้คลีนเซอร์แบบออยล์ โดยนวดเบา ๆ บนใบหน้าแล้วล้างออกนั่นเองค่ะ Step 2 : ใช้โฟมที่อ่อนโยนจาก Step 1 หลังจากที่เราได้เช็ดเครื่องสำอางกันไปเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญก็คือ “การล้างหน้า” โดยควรเลือกโฟมล้างหน้าที่ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด สำหรับสาวญี่ปุ่นแล้วเธอเลือกใช้โฟมสูตรที่อ่อนโยนต่อผิว เพื่อป้องกันการแพ้และบำรุงผิวหน้าที่ถูกทำลายมาไปในตัว Step 3 : ปรับสมดุลให้กับผิวสาว ๆ คงสงสัยว่าเราเช็ดด้วยคลีนเซอร์และล้างหน้าด้วยโฟมแล้วยังต้องปรับสมดุลให้ผิวอีกเหรอ เพราะสาวญี่ปุ่นจะเลือกใช้โทนเนอร์เพื่อทำความสะอาดอีกรอบ ซึ่งถือว่าเยอะเลยใช่ไหมคะ แต่นอกจากจะเป็นขั้นตอนของการทำความสะอาดแล้วยังช่วยปรับสมดุลให้กับผิวหน้าของเราได้อีกด้วย ซึ่งหากเราอยากให้โทนเนอร์มีประสิทธิภาพที่ดีควรใช้หลังการอาบน้ำเลยค่ะ Step 4 : การบำรุงผิวหากพูดเรื่องการบำรุงผิวแน่นอนว่าสาว …

เคล็ดลับหน้าใส หน้าเด็กลงไม่พึ่งศัลยกรรม

November 12, 2019 0 Comments

หน้าใส ผิวหน้าสวยเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวหน้าดูเด็กลงได้ มีวิธีปฎิบัติง่ายๆ ดังนี้ ใช้น้ำเย็นหลังหน้า : ทุกครั้งหลังล้างหน้าจนสะอาดแล้ว ให้ใช้น้ำเย็นจัดล้างหน้าอีกครั้งหนึ่ง น้ำเย็นนอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่นแล้ว ยังมีส่วนช่วยกระชับรูขุมขนทำให้ผิวดูสวยใสน่าสัมผัส บริหารใบหน้า : การบริหารใบหน้าจะช่วยให้กล้ามเนื้อยกกระชับ ผิวหนังยืดหยุ่นได้ดี ช่วยให้หน้าแลดูอ่อนกว่าวัย ตัวอย่างการบริหารใบหน้า เบิกตากว้างค้างไว้ ช่วยบริหารกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากและรอบดวงตา การทำแก้มป่องเหมือนกับคนเป่าขลุ่ยหรือแซกโซโฟน เป็นการเกร็งกล้ามเนื้อแก้มให้แข็งแรง สำหรับผู้เริ่มต้นอย่าทำหักโหม จะทำให้เกิดอาการเมื่อยตึงบนใบหน้าได้ พักหน้า : ให้เวลาพักหน้าบ้าง โดยการงดใช้เครื่องสำอางทุกชนิด เปิดโอกาสให้ผิวหน้าได้สัมผัสอากาศธรรมชาติ การใช้เครื่องสำอางเป็นประจำ นอกจากทำให้รูขุมขนอุดตัน ผิวหนังถูกกระตุ้นตลอดเวลาแล้ว ถ้าหากทำความสะอาดไม่ดีจะทำให้เกิดริ้วรอย เกิดปัญหาสิว และทำให้ผิวอักเสบได้ รับประทานผักผลไม้หลายสี : ผักผลไม้มีเกลือแร่ วิตามินและเส้นใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ผักผลไม้ที่มีสีสันแตกต่างกันไปให้คุณค่าทางอาหารที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังมีสารไฟโตนิวเทรียนท์ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดสมดุล กำจัดสารพิษ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ผักสีเขียวบำรุงผิวลดริ้วรอย ผักสีม่วง กระตุ้นการทำงานของเซลล์ ชะลอความชรา ผักสีขาวและน้ำตาล ลดการอักเสบ สีแดง บำรุงหัวใจและบอด สีส้ม มีเบต้าแคโรทีนลดความเสื่อมของเซลและลดไขมันในเส้นเลือด …

ไม่อยากแก่ สุขภาพดี ต้องนอนเร็ว

September 5, 2019 0 Comments

นอนเร็วจะช่วยอะไรได้บ้างมาดูกันค่ะ ว่าการนอน สำคัญแค่ไหน ต่อสุขภาพร่างกาย ที่ไม่ว่าเงินเท่าไหร่ก็หาซื้อไม่ได้ 1.ช่วยให้ความจำดีขึ้น สังเกตได้ง่ายๆ ว่า เวลาที่คุณอดนอน จะไม่สามารถจดจำอะไรได้ดีเท่าที่ควร สมองจะมึนๆ งงๆ ทำอะไรก็เกิดความสับสน ดังนั้นการนอนเร็ว หรือนอนหลับให้เพียงพอนั้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำของสมองได้ดีขึ้น เพราะในช่วงที่คุณหลับสมองจะจัดระเบียบกลไกต่างๆ ในการจดจำให้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น ยิ่งนอนเร็ว ก็จะยิ่งจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นแน่นอน 2.ชะลอความชราก่อนวัย สาวๆ คนไหนที่ไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัย ลองหันมานอนเร็วขึ้น รับรองว่าจะช่วยให้ใบหน้าของคุณเต่งตึงและอ่อนเยาว์กว่าวัยได้มากกว่าเดิม เพราะในช่วงที่นอนหลับร่างกายในส่วนต่างๆ โดยเฉพาะผิวพรรณจะใช้เวลาในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ยิ่งคุณนอนหลับได้มากเท่าไหร่ ผิวพรรณที่หยาบกร้าน มีริ้วรอย ก็จะถูกซ่อมแซมไปด้วยมากเท่านั้น 3.ห่างไกลโรคอ้วน การนอนเร็วจะช่วยให้คุณลดอัตราการกินจุกจิกในช่วงกลางดึกไปได้ สังเกตได้ว่าคนที่นอนดึกเป็นประจำ ร่างกายมักจะเกิดความหิวในช่วงก่อนนอน ทำให้ต้องหาอะไรรับประทาน และนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและกลายเป็นโรคอ้วน การนอนเร็วจะช่วยให้กลไกความหิวนั้นหายไป ส่งผลให้คุณควบคุมน้ำหนักได้ดีกวาเดิม และห่างไกลโรคอ้วนได้ในที่สุด 4.มีความสุขมากขึ้น สมองจะผลิตสารแห่งความสุขออกมามากในช่วงเวลาที่คุณนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นเมลาโทนิน, ซีโรโทนิน สารเหล่านี้จะทำให้ร่างกายของคุณรู้สึกผ่อนคลาย แฮปปี้มากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า วันไหนที่คุณนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ตื่นเช้าขึ้นมาคุณจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า นั่นเพราะร่างกายผลิตสารเหล่านี้ออกมาอย่างพอเพียงในช่วงเวลานอนนั่นเอง จะเห็นได้ชัดว่าการนอนเร็วนั้น เป็นตัวช่วยที่ดีที่จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของคุณในทุกๆ ด้านดีขึ้น …

“โพรไบโอติคส์” ดีต่อผิว ดีต่อหุ่น

โพรไบโอติคส์
August 14, 2019 0 Comments

โพรไบโอติคส์ อ่านของจ่าแล้วดูสั้นๆ ขยายความละกัน … คือเชื่อว่าคำๆนี้หลายคนคงจะเคยได้ยินกันมาบ้าง หลายคนอาจจะเคยได้ยินตั้งแต่สมัย 20-30 ปีก่อนตอนที่อาหารเพื่อสุขภาพกำลังดังๆ แต่อาจจะยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แถมมันยังมีหลายคำกันเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น โพรไบโอติคส์ พรีไบโอติคส์ หรือซินไปโอติคส์ โพรไบโอติคส์ ตามคำนิยามขององค์การอนามัยโลกคือจุลชีพมีชีวิต ที่เมื่อให้เข้าไปในร่างกายในขนาดที่เหมาะสมแล้วจะก่อนให้ผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งที่มาที่ไปเริ่มต้นมาจากสมัยก่อน นมวัวเป็นอาหารที่เก็บได้ยาก เก็บไว้ไม่กี่วันก็เสียแล้วกินเข้าไปก็ท้องเสียป่วยไม่สบาย … แต่พอเอาไปผ่านกระบวนการบางอย่างทำให้เป็นชีสเป็นโยเกิร์ตก็พบว่าเก็บได้นานขึ้น คนก็ใช้การถนอมอาหารแบบนี้กันเรื่อยมา จนพอวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้ามากขึ้น ราวๆปี 1900 ก็มีนักศึกษาแพทย์คนนึงเอาโยเกิร์ตไปตรวจดูแล้วพบว่าในโยเกิร์ตจะมีเชื้อ แบคทีเรียรูปแท่งตัวยาวๆเต็มไปหมด พองานวิจัยแพร่ออกไป ก็มีนักวิทยาศาสตร์รัสเซียรางวัลโนเบลคนนึงให้ความสนใจ เพราะเจ้าโยเกริ์ตที่ว่านี้เป็นอาหารที่นิยมกินกันในคนบางท้องถิ่น และคนในพื้นที่นั้นดูเหมือนมีอายุยืนกว่าคนในแถบอื่นๆ เขาก็เลยตั้งสมมุติฐานขึ้นมาว่าแบคทีเรียในลำไส้น่าจะปล่อยสารพิษอะไรบางอย่างออกมา และกรดแลคติกที่เชื้อในโยเกิร์ตสร้างขึ้นก็สามารถยับยั้งกระบวนการความชราได้ ข้อมูลจาก >> https://www.sanook.com/health/4233/